แผนการออมเงิน กบข.

ออมเงินกับ กบข. อุ่นใจ สบายได้ มีเงินไว้ใช้วัยเกษียณ

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) คือ การเงินออมของข้าราชการไทยที่อยู่ในรูปแบบกองทุนการออมเงินเพื่อการเกษียณอายุ เป็นวิธีการออมเงินเพื่อให้มีเงินไว้ใช้หลังเกษียณ ออมเงินกับ กบข. แล้วดีอย่างไร? สมาชิกได้ลดหย่อนภาษียังไงบ้าง? มาหาคำตอบกันจากบทความนี้กันได้เลย

Link ที่เกี่ยวข้อง

ประกันสังคม

กบข. คืออะไร?

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. คือ ระบบการออมเกษียณภาคบังคับสำหรับข้าราชการของประเทศไทย เปิดโอกาสให้ข้าราชการที่รับราชการก่อนกฏหมายจัดตั้งกองทุน กบข. ที่บังคับใช้เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2540 สามารถเลือกได้ว่าจะสมัครเป็นสมาชิก กบข. หรือไม่ แต่คนที่เข้ารับราชการหลังวันดังกล่าว จะต้องเป็นสมาชิก กบข. ทุกคนตามที่กฏหมายกำหนด

การทำงานของ กบข.

กบข. มีลักษณะเป็นกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุ ให้บริการข้อมูลทางการเงิน บริหารเงินออมของสมาชิก คำนวณเงินเกษียณ และเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญและให้ประโยชน์ ตอบแทนการรับราชการเมื่อออกจากราชการ

  • ออมเงิน: กบข. ทำหน้าที่ส่งเสริมการออมทรัพย์ของสมาชิก ในรูปแบบเงินสะสม เงินสมทบ เงินชดเชย เงินสำรอง และเงินสะสมส่วนเพิ่ม
  • ลงทุน: กบข. มีหน้าที่ดูแลและบริหารเงินออมของข้าราชการ โดยนำเงินจากสมาชิกและส่วนราชการไปลงทุนเพื่อสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวที่เหมาะสมภายใต้ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ตามนโยบายการลงทุนที่กำหนดไว้ในกฏหมาย
  • วางแผนเกษียณ: กบข. ช่วยเหลือสมาชิกในการวางแผนการเงินไว้ใช้หลังเกษียณอายุ ราชการให้เหมาะสมเพียงพอ โดยเน้นให้ความสำคัญกับแผนการทยอยถอนเงินตามช่วงเวลา เช่น บริการออมเงินต่อ

ใครบ้างที่สามารถสมัครสมาชิก กบข. ได้?

เนื่องจาก กบข. เป็นระบบการออมภาคบังคับที่เพิ่งก่อตั้ง และเริ่มบังคับใช้ตามกฏหมายเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2540 ที่ผ่านมา จึงได้แบ่งสมาชิกเป็น กลุ่มที่รับราชการมาก่อนหน้านั้น สามารถสมัครใจว่าจะสมัครสมาชิก กบข. หรือไม่ก็ได้ และสมาชิกกลุ่มที่รับราชการหลังวันดังกล่าว จะต้องเป็นสมาชิก กบข. ทุกคน ประกอบด้วย ข้าราชการ 12 ประเภท ได้แก่

  1. ข้าราชการพลเรือน
  2. ข้าราชการตุลาการ
  3. ข้าราชการอัยการ
  4. ข้าราชการรัฐสภา
  5. ข้าราชการตำรวจ
  6. ข้าราชการทหาร
  7. ข้าราชการในสถาบันอุดมศึกษา
  8. ข้าราชการครูและบุคลากรการศึกษา
  9. ข้าราชการศาลรัฐธรรมนูญ
  10. ข้าราชการศาลปกครอง
  11. ข้าราชการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
  12. ข้าราชการสำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช.

สวัสดิการและสิทธิประโยชน์ของสมาชิก กบข.

สมาชิก กบข. จะได้รับสิทธิต่าง ๆ ดังนี้ คือ

  1. สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับเงินสะสมและเงินออมเพิ่มที่สมาชิกส่งเข้า กบข. ไม่เกินปีละ 5 แสนบาท
  2. สวัสดิการพิเศษเฉพาะสมาชิก กบข. เท่านั้น โดยสามารถกดรับสิทธิ์ได้สะดวกทันทีทุกวันที่ My GPF Application
  3. เมื่อสิ้นสุดสมาชิกภาพ จะได้รับเงินเป็น 2 ส่วน ได้แก่
  •  
    • ส่วนแรก เงินบำเหน็จ หรือ เงินบำนาญรายเดือนจากกรมบัญชีกลาง
    • ส่วนที่สอง คือ เงินจาก กบข.ประกอบด้วย เงินสะสม เงินสมทบ เงินชดเชย เงินประเดิม (กรณีรับราชการก่อน 27 มีนาคม 2540 ) พร้อมผลประโยชน์จากเงินทั้ง 4 ส่วนดังกล่าว
สวัสดิการกบข

ออมเงินกับ กบข. แล้วดีอย่างไร?

กองทุนบำเหน็จบำนาญ หรือ กบข. สมาชิกสามารถนำเงินออมไปลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้ และเมื่อเกษียณอายุสามารถเลือกรับเงินแบบบำเหน็จหรือรับเงินเป็นก้อนทั้งส่วนที่สะสม และรัฐสมทบ รวมผลตอบแทนจากการลงทุน และกรณีรับเงินคืนแบบบำนาญเป็นรายเดือน นอกจากนั้นยังสามารถออมเงินเพิ่ม หรือ ออมเงินต่อกับ กบข. ได้แม้จะเกษียณอายุไปแล้วก็ตาม

ทำไม กบข. เป็นระบบออมเงินเกษียณที่ดีที่สุดของข้าราชการ?

กองทุนบำเหน็จบำนาญ หรือ กบข. เป็นระบบออมเงินเกษียณภาคบังคับที่ดีที่สุดของข้าราชการ เพราะ กบข. มีแผนการลงทุนให้สมาชิกเลือกเยอะกว่ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือ กองทุนประกันสังคมของบริษัทเอกชน นอกจากนั้นสมาชิกยังสามารถขอเปลี่ยนแผนการลงทุนได้เอง

ข้อดี-ข้อเสียของการออมเงินกับ กบข.

  • ข้อดี คือ เป็นกองทุนการออมเงินเพื่อการเกษียณอายุ ที่เป็นหลักประกันในวัยเกษียณและให้ผลประโยชน์ตอบแทนการรับราชการเมื่อออกจากราชการ ส่งเสริมให้สมาชิกมีการออมทรัพย์ รวมทั้งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้
  • ข้อเสีย คือ อาจมีความเสี่ยงจากการนำเงินของสมาชิกไปลงทุน โดยเฉพาะสมาชิกที่ไม่เข้าแผนการลงทุน ซึ่งอาจทำให้ยอดเงินออมลดลงได้ รวมทั้งไม่มีการจ่ายเงินปันผลรายปีเมื่อเทียบกับสหกรณ์ออมทรัพย์

คนที่รับราชการก่อนวันที่ 27 มีนาคม 2540

มีสิทธิสมัครใจเลือกเป็นสมาชิก กบข. หรือไม่ก็ได้ โดยมีข้อดีและข้อเสีย ดังนี้

  • ข้อดี กรณีเลือกเป็นสมาชิก กบข. คือ จะมีทางเลือกในการออมเงินเพิ่มขึ้น ทั้งเงินส่วนผสม ระหว่างเงินออมของสมาชิก เงินสมทบ และเงินชดเชยบำนาญที่ลดลงจากรัฐ และผลประโยชน์จากการลงทุนที่กบข. หาได้ ทำให้เมื่อเกษียณอายุจะได้รับเงินเกษียณที่มากพอไว้ใช้ในวัยเกษียณ
  • ข้อเสีย กรณีไม่เป็นสมาชิก กบข. คือ เมื่อเกษียณอายุจะได้รับแค่เงินบำเหน็จหรือบำนาญจากภาครัฐเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเงินออม เงินสมทบจากรัฐ หรือผลประโยชน์จากการลงทุนใด ๆ เลย

โปรแกรมช่วยวางแผนการเงิน โดย กบข.

กองทุนบำเหน็จบำนาญหรือ กบข. ได้พัฒนาเครื่องมือวางแผนการเงิน ซึ่งเป็นโปรแกรมที่จะช่วยวางแผนการเงินครอบคลุมทั้งการบริหารรายรับรายจ่าย การออมเงิน การลงทุน การจัดการหนี้ วางแผนภาษี ประกันชีวิต และประกันสุขภาพ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการเงินของสมาชิก

เครื่องมือวางการเงิน

เครึ่องมือวางแผนการเงิน เป็นโปรแกรมที่ถูกพัฒนาจากการให้คำปรึกษาแก่สมาชิก กบข.
( GPF Financial Assistant Center ) มีหัวข้อวิเคราะห์การงินของสมาชิก 5 หัวข้อ ได้แก่

  1. ตรวจสุขภาพทางการเงิน เพื่อช่วยประเมินสถานะทางการเงินของสมาชิกในปัจจุบัน และเปรียบเทียบระหว่างทรัพย์สินและหนี้สินอัตโนมัติ
  2. วางแผนการลงทุนตามเป้าหมาย ช่วยให้รู้ว่าควรออมเงินหรือลงทุนอย่างไรให้ได้ตามเป้าหมายและตามเวลาที่ต้องการ
  3. วางแผนสินเชื่อและจัดการหนี้ เป็นเครื่องมือช่วยประเมินความสามารถการขอสินเชื่อและช่วยบริหารจัดการหนี้
  4. วางแผนภาษีให้ถูกต้อง ครบถ้วน และใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อช่วยประหยัดภาษีที่จ่ายให้น้อยลงหรือไม่มากเกินไป
  5. วางแผนประกันชีวิต จะช่วยประเมินสถานการณ์ได้ว่าควรทำประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพ ตามที่ต้องการและเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดมาก่อน
แผนการลงทุน กบข.

ปฏิทินการอบรม

กองทุน กบข. ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ จัดโครงการส่งเสริมความรู้ทางการเงินแก่สมาชิก กบข. ในปี 2565 นี้ เพื่อเสริมความรู้ ทักษะทางการเงิน สร้างวินัยการออม วางแผนการเงินเพื่อการเกษียณอายุอย่างมีคุณภาพ ผ่านกบข. ในหลักสูตรต่าง ๆ อาทิ การวางแผนภาษีสไตล์มนุษย์เงินออม บริหารเงินหลังเกษียณสไตล์วัยเก๋า ครบเครื่องเรื่องพอร์ตลงทุน การออมและการลงทุน สามารถดูช่วงเวลากิจกรรมอมรบได้ที่ ปฏิทินการอบรม

สมาชิก กบข. ลดหย่อนภาษีอย่างไร?

สมาชิก กบข. หรือ คนที่จ่ายเงินสะสมเข้ากองทุน กบข. สามารถนำเงินนั้นไปใช้เป็นค่าลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินสะสมตามที่จ่ายจริง แต่กฎหมายกำหนดเพดานให้หักลดหย่อนได้ไม่เกินปีละ 5 แสนบาท

ขอลดหย่อนภาษีระหว่างเป็นสมาชิก และพ้นสภาพสมาชิก

ระหว่างเป็นสมาชิก กบข. มีสิทธิขอลดหย่อนภาษีจากเงินออมสะสมได้ปีละไม่เกิน 5 แสนบาท แต่เมื่อพ้นสมาชิกภาพ กบข. จากการเกษียณอายุ ทุพพลภาพ เสียชีวิต หรือลาออกตามโครงการของรัฐ มีสิทธิได้รับยกเว้นภาษีเฉพาะเงินออมที่ได้รับจากกบข. หรือ กรณีสมาชิกออมต่อ จะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเฉพาะเงินต้นและผลประโยชน์จากการออมต่อ ส่วนถ้าสิ้นสุดสมาชิกด้วยเหตุอื่น ๆ จะไม่ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีจากเงินที่ได้รับจาก กบข. ยกเว้นเงินต้นสะสม แต่กรณีที่ออมต่อก็จะได้รับการยกเว้นภาษีเมื่อขอรับเงินคืนตอนอายุ 60 ปีเท่านั้น

การส่งเงินเข้ากบข.

สมาชิกกบข.ต้องศึกษาสัดส่วนการส่งเงิน และวิธีหักเงินเข้ากบข. โดยมีรายละเอียดดังนี้

สัดส่วนการส่งเงินเข้า กบข.

สมาชิก กบข. ทุกคนจะมีเงินออมในบัญชี เริ่มตั้งแต่เป็นสมาชิกจนถึงปัจจุบัน โดยเงินออมที่สมาชิกสะสมเข้ากองทุนอยู่ที่ 3% ของเงินเดือนสมาชิก ซึ่งเงินเดือนดังกล่าวไม่รวมกับเงินเพิ่มพิเศษรายเดือนหรือเงินเพิ่มอย่างอื่น

กรณีส่งเงินสะสมส่วนเพิ่มสามารถส่งได้ตั้งแต่ 1- 12% ของเงินเดือน และเมื่อรวมกันแล้วเงินสะสมต้องไม่เกิน 15% ของเงินเดือนของสมาชิก

วิธีหักเงินเข้า กบข.

ส่วนราชการต้นสังกัดของสมาชิก จะทำหน้าที่หักเงินสะสมของสมาชิกจากเงินเดือนและนำส่งเข้ากบข.

กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หรือ กบข. เป็นกองทุนการออมเพื่อการเกษียณอายุภาคบังคับของข้าราชการ เพื่อเป็นหลักประกันการจ่ายบำเหน็จบำนาญให้และตอบแทนการรับราชการ จนเกษียณอายุ รวมกับสวัสดิการและสิทธิประโยขน์อื่น ๆ ของสมาชิก ดังนั้นข้าราชการต้องไม่พลาดการวางแผนและออมเงินกับกบข. เพื่อให้อุ่นใจ และมีเงินใช้หลังเกษียณอย่างแน่นอน

Link ที่เกี่ยวข้อง

คุณให้คะแนนบทความนี้เท่าไหร่

Sending

ขอบคุณสำหรับคะแนน
ต้องการแนะนำเพิ่มเติมหรือไม่ ?

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ

แชร์ข้อมูลหรือคำแนะนำเพิ่มเติม ?

ความเห็นของคุณสำคัญกับเรา เพื่อปรับปรุงคุณภาพบทความ ให้มีประโยชน์กับทุกๆคนมากขึ้น
Sending

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายคุ้กกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ปุ่มตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่มีความจำเป็น (Strictly Necessary Cookies)
    เปิดใช้งานตลอด

    คุกกี้ประเภทนี้มีความจำเป็นต่อการให้บริการเว็บไซต์ของ สพร. เพื่อให้ท่านสามารถเข้าใช้งานในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ได้ รวมถึงช่วยจดจำข้อมูลที่ท่านเคยให้ไว้ผ่านเว็บไซต์ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ท่านไม่สามารถใช้บริการในสาระสำคัญของ สพร. ซึ่งจำเป็นต้องเรียกใช้คุกกี้ได้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์และประเมินผลการใช้งาน (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ช่วยให้ สพร. ทราบถึงการปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้งานในการใช้บริการเว็บไซต์ของ สพร. รวมถึงหน้าเพจหรือพื้นที่ใดของเว็บไซต์ที่ได้รับความนิยม ตลอดจนการวิเคราะห์ข้อมูลด้านอื่น ๆ สพร. ยังใช้ข้อมูลนี้เพื่อการปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์ และเพื่อเข้าใจพฤติกรรมของผู้ใช้งานมากขึ้น ถึงแม้ว่า ข้อมูลที่คุกกี้นี้เก็บรวบรวมจะเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ และนำมาใช้วิเคราะห์ทางสถิติเท่านั้น การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะส่งผลให้ สพร. ไม่สามารถทราบปริมาณผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ และไม่สามารถประเมินคุณภาพการให้บริการได้

  • คุกกี้เพื่อการใช้งานเว็บไซต์ (Functional Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้จะช่วยให้เว็บไซต์ของ สพร. จดจำตัวเลือกต่าง ๆ ที่ท่านได้ตั้งค่าไว้และช่วยให้เว็บไซต์ส่งมอบคุณสมบัติและเนื้อหาเพิ่มเติมให้ตรงกับการใช้งานของท่านได้ เช่น ช่วยจดจำชื่อบัญชีผู้ใช้งานของท่าน หรือจดจำการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าขนาดฟอนต์หรือการตั้งค่าต่าง ๆ ของหน้าเพจซึ่งท่านสามารถปรับแต่งได้ การปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้อาจส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์

  • คุกกี้เพื่อการโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้เป็นคุกกี้ที่เกิดจากการเชื่อมโยงเว็บไซต์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเก็บข้อมูลการเข้าใช้งานและเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าเยี่ยมชม เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่นที่ไม่ใช่เว็บไซต์ของ สพร. ทั้งนี้ หากท่านปิดการใช้งานคุกกี้ประเภทนี้จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานเว็บไซต์ของ สพร. แต่จะส่งผลให้การนำเสนอสินค้าหรือบริการบนเว็บไซต์อื่น ๆ ไม่สอดคล้องกับความสนใจของท่าน

บันทึกการตั้งค่า