ลูกหนี้ กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ “กยศ.” ทุกคนต้องไม่ลืมว่า วันที่ 5 กรกฎาคม ของทุกปี คือวันครบกำหนดชำระหนี้คืน หากไม่ชำระหนี้ กยศ. คืนตามเวลาและจำนวนเงินที่กำหนด หรือ เบี้ยวหนี้ นั้นจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ทั้งลูกหนี้ และผู้ค้ำประกัน แล้วรัฐมีทางที่จะเข้ามาช่วยเราได้บ้างมั้ยนะ
Link ที่เกี่ยวข้อง
ค้างชำระหนี้หลายงวด ไม่ต้องเบี้ยว รัฐช่วยไกลเกลี่ย
การชำระหนี้ครบตามเวลาที่ กยศ. กำหนด นอกจากจะช่วยให้รุ่นน้องได้รับโอกาสทางการศึกษาแล้ว ยังทำให้ลูกหนี้ที่ชำระเงินคืนมีประวัติการชำระหนี้ที่ดีด้วย เพราะฉะนั้น ทุกวันที่ 5 ก.ค. ของทุกปี คือ วันครบกำหนดชำระหนี้คืนของ “กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา” หรือ “กยศ.”
หากใครยังไม่ได้ชำระหนี้และค้างมาหลายงวด “ไม่ต้องเบี้ยว” เพราะกยศ. มีมาตรการช่วยผ่อนชำระหนี้ได้
ผิดนัดชำระหนี้ โดนค่าปรับเท่าไหร่
ตามปกติ กองทุนจะมีหนังสือแจ้งภาระหนี้ ส่งไปถึงผู้กู้ยืม 1 ครั้ง ก่อนถึงวันครบกำหนดชำระหนี้งวดแรก โดยจะส่งไปยังที่อยู่เดิมตามภูมิลำเนาของผู้กู้ยืม หรือ ตามที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
หากผู้กู้ยืมเงินผิดนัดชำระหนี้ จะต้องชำระค่าปรับ หรือ ค่าธรรมเนียมจัดการการผิดนัดชำระหนี้ ตามอัตราที่กองทุนกำหนด โดยค่าธรรมเนียมกรณีผิดนัดชำระเงินกู้ยืมคืน จากเดิมเบี้ยปรับอยู่ที่ 12-18% เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 มีการปรับลดลงอยู่ที่ 7.5% ต่อปี (โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 62)
ขั้นตอน “ไกล่เกลี่ย” ลดเบี้ยปรับ
สำหรับผู้กู้ยืมกลุ่มที่ค้างชำระหนี้และกำลังจะถูกฟ้อง และผู้กู้ยืมกลุ่มที่จะถูกบังคับคดี ไม่ต้องกังวล เพราะรัฐมีักระบวนการไกล่เกลี่ย ช่วยให้ไม่ต้องถูกดำเนินคดี และยังมีส่วนลดเบี้ยปรับ รวมทั้งได้รับโอกาสในการขยายระยะเวลาผ่อนชำระได้ถึงอายุ 65 ปี เพื่อให้ผู้กู้ยืมกลับเข้ามาสู่ระบบการชำระหนี้ให้ตามปกติ
เพราะฉะนั้น ผู้กู้ กยศ. ที่ไม่สามารถผ่อนชำระได้ตามเงื่อนไขปกติ แต่ไม่ต้องอยากให้เสียประวัติ และไม่ต้องถูกดำเนินคดี จึงควรเข้าสู่ขั้นตอนการไกล่เกลี่ย เพราะจะช่วยลดค่าปรับและปรับโครงสร้างหนี้ผ่อนชำระให้นานขึ้น โดยไม่เป็นภาระให้กับผู้ค้ำประกัน แล้วยังช่วยให้ผู้กู้รุ่นหลังมีโอกาสกู้เงินเรียนได้ต่อไป
ผู้กู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิขอไกล่เกลี่ยฯ ได้ทางเว็บไซต์ กยศ.หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก กยศ. ที่บัญชีไลน์ หรือโทร 0 2-016-4888 ก็ได้เช่นกัน
TIP BOX: คนค้ำไม่ต้องกลุ้ม ถ้าคนกู้ไม่จ่ายหนี้
ผู้ค้ำประกันเงินกู้ที่ต้องรับผิดชอบหนี้แทน ขณะนี้กำลังมีการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา โดยแก้ไขให้กองทุนมีอำนาจในการปลดภาระผู้ค้ำประกัน หรือยกเลิกการค้ำประกันของผู้ค้ำประกัน เมื่อผู้กู้ยืมได้ผ่อนชำระเงินต้นมาแล้ว 25% ของเงินต้นที่ค้างชำระ
ไม่ไหว ไม่ต้องปวดหัว ขอผ่อนผันชำระหนี้ได้
ผู้กู้ กยศ. ที่ผ่อนไม่ไหว ไม่ต้องปวดหัวอีกต่อไป เพราะ กยศ. ได้ปรับมาตรการช่วยผ่อนผันชำระหนี้ให้นานขึ้น ด้วยการจ่ายหนี้รายเดือน ไม่ต้องจ่ายรายปี โดยมีมาตรการผ่อนผัน ดังนี้
- ปรับโครงสร้างหนี้ผ่อนนานสูงสุด 30 ปี ผู้กู้จะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปีบริบูรณ์ ในการชำระเงินงวดสุดท้ายและจะมีการปรับลดดอกเบี้ยในการชำระเงินงวดสุดท้าย ให้กับผู้กู้ที่ยังไม่ถูกฟ้องดำเนินคดี แต่ถ้าไม่สามารถผ่อนชำระเงินคืนได้ตามสัญญา ผู้กู้สามารถขอปรับโครงสร้างหนี้ได้ที่ทางแอปฯ กยศ. Connect หรือทางเว็บไซต์กยศ.
- ปรับเปลี่ยนลำดับตัดชำระหนี้ ผู้กู้ที่อยู่ระหว่างผ่อนชำระเงินคืนและยังไม่ถูกฟ้อง จากเดิมที่ใช้วิธีการตัดเบี้ยปรับ ดอกเบี้ย และเงินต้น กองทุนจะปรับเปลี่ยนลำดับการตัดชำระหนี้ใหม่ โดยจะนำเงินที่ได้รับชำระไปตัดเงินต้น ดอกเบี้ย และเบี้ยปรับแทน
- ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขการผ่อนชำระเงินคืน สำหรับผู้กู้ยืมรายใหม่ และผู้กู้ยืมที่อยู่ในระยะปลอดหนี้ ซึ่งยังไม่ครบกำหนดชำระหนี้ จากเดิมที่ผ่อนชำระเป็นรายปี กองทุนจะปรับให้ผ่อนชำระเป็นรายเดือนในอัตราเท่ากันทุกเดือน และเพิ่มระยะเวลาการผ่อนชำระจากเดิมไม่เกิน 15 ปี เป็นไม่เกิน 30 ปี ขึ้นอยู่กับยอดหนี้ของผู้กู้ยืมแต่ละราย ทั้งนี้ในการชำระเงินงวดสุดท้ายผู้กู้ยืมจะต้องมีอายุไม่เกิน 60 ปีบริบูรณ์
ลูกหนี้ กยศ. ทำอย่างไรไม่ให้ถูกฟ้องดำเนินคดี
มาทำความเข้าใจเงื่อนไขกันก่อนจะถูกฟ้องดำเนินคดี หากผู้กู้ผิดนัดชำระ ไม่ชำระคืนเป็นเวลานาน นอกจากจะต้องจ่ายค่าปรับ และเสียค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังจะถูกฟ้องดำเนินคดีด้วย โดยเกณฑ์ที่ถูกฟ้องร้อง มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้
กรณีที่ 1 – ผู้กู้ยืม กยศ. ค้างชำระหนี้เกินกว่า 4 ปี 5 งวด (1,460 วันขึ้นไป)
กรณีที่ 2 – ผู้กู้ยืม กยศ. พ้นระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้แล้ว แต่ยังมีหนี้ค้างชำระ
กรณีที่ 3 – ผู้กู้ยืม กยศ. กลุ่มไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องคดี (มีหนี้ค้างชำระ)
ถ้าถูกฟ้องดำเนินคดี จะต้องทำอย่างไร
แนวปฏิบัติสำหรับผู้กู้ กยศ. ที่ถูกดำเนินคดี มีอยู่ด้วยกัน 2 กรณี คือ
ผู้กู้ยืมต้องการถอนฟ้อง
ผู้กู้ยืมต้องชำระหนี้ปิดบัญชี พร้อมจ่ายค่าทนาย และส่งหลักฐานการชำระหนี้ปิดบัญชีให้กับกองทุนฯ เพื่อพิจารณาถอนฟ้อง
ผู้กู้ยืมไม่สามารถชำระหนี้เพื่อถอนฟ้องได้
ทางออกของผู้กู้และผู้ค้ำประกันเงินกู้ที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ มี 2 วิธี คือ
- เจรจาไกล่เกลี่ยยอมความในชั้นศาล
ผู้กู้และผู้ค้ำประกัน ต้องไปตามหมายนัดของศาล เพื่อขอผ่อนชำระหนี้รายเดือนให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาไม่เกิน 9-15 ปี แต่ถ้าคนใดคนหนึ่งไม่สามารถไปตามนัดหมายได้ ต้องทำหนังสือมอบอำนาจให้คนอื่นที่บรรลุนิติภาวะไปทำแทน - ผู้กู้และผู้ค้ำประกัน ไม่ไปตามหมายนัด
ในกรณีที่ผู้กู้และผู้ค้ำผิดนัด ศาลจะสั่งพิพากษาชำระหนี้ทั้งจำนวน โดยจะส่งคำบังคับคดีให้ชำระหนี้ให้เสร็จสิ้นภายใน 30 วัน หลังจากได้รับคำสั่งศาล
ลูกหนี้ กยศ. ที่ถูกอายัดทรัพย์ จะต้องทำอย่างไร
หลังจากศาลมีคำพิพากษาแล้ว ผู้กู้และผู้ค้ำประกันที่ศาลมีคำพิพากษาให้ชำระหนี้ หรือชำระหนี้ตามสัญญาประนีประนอมยอมความแล้ว จะต้องชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่ทำตามคำสั่ง กองทุนฯ จะเข้ามาทำการสืบทรัพย์ และบังคับคดีกับทรัพย์ของผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกัน เพื่อนำไปขายทอดตลาด นำเงินมาชำระหนี้ตามคำพิพากษาต่อไป
ลูกหนี้ที่ถูกอายัดทรัพย์ มีข้อปฏิบัติ ดังนี้
1. ชำระหนี้ปิดบัญชี
ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ทันที หรือชำระหนี้หลังจากถูกยึดทรัพย์/อายัดทรัพย์ แล้วส่งหลักฐานการชำระหนี้ให้กับกองทุนฯ เพื่อแจ้งให้สำนักงานทนายความที่ได้รับมอบหมายระงับการดำเนินคดี ในกรณีนี้อาจมีการจ่ายค่าธรรมเนียม หรือค่าทนายความ
การชำระหนี้ปิดบัญชีหลังจากถูกยึดทรัพย์/อายัดทรัพย์ ผู้กู้ต้องติดต่อสำนักงานทนายความที่ได้รับมอบหมาย เพื่อนัดวันถอนการยึดทรัพย์และบังคับคดี โดยผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกัน จะต้องเป็นฝ่ายชำระค่าธรรมเนียมถอน หรือค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่สำนักงานบังคับคดีเรียกเก็บทั้งหมด
2. ไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดี
หากผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกันไม่สามารถชำระหนี้ปิดบัญชี ค่าฤชาธรรมเนียม ค่าทนายความได้ และกองทุนฯ ได้ทำการยึดทรัพย์ไว้แล้ว ผู้กู้ยืมหรือผู้ค้ำประกันสามารถยื่นเรื่องขอไกล่เกลี่ยชั้นบังคับคดี เพื่อผ่อนชำระหนี้ และชะลอการขายทรัพย์ทอดตลาดไว้ชั่วคราวได้ โดยมีขั้นตอน ดังนี้
- ติดต่อสำนักงานกองทุนฯ หรือสำนักงานทนายความผู้ได้รับมอบหมายจากกองทุนฯ เพื่อทำบันทึกข้อตกลงไกล่เกลี่ยในชั้นบังคับคดี
- ยื่นคำแถลงของดการบังคับคดีไว้เป็นการชั่วคราว เพื่อชะลอการขายทอดตลาด ที่สำนักงานบังคับคดี ซึ่งจะต้องมีคำสั่งอนุญาตจากเจ้าพนักงานบังคับคดีด้วย
- ผ่อนชำระหนี้ตามบันทึกข้อตกลงไกล่เกลี่ย ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลาที่กำหนด
- เมื่อชำระหนี้ปิดบัญชี และชำระค่าธรรมเนียมแล้ว จะต้องส่งหลักฐานการชำระหนี้ดังกล่าวให้กับกองทุนฯ เพื่อระงับการดำเนินการบังคับคดี
- นัดวันถอนการยึดทรัพย์ โดยติดต่อสำนักงานทนายความผู้ได้รับมอบหมาย เพื่อนัดวันไปถอนการยึดทรัพย์ ถอนการบังคับคดี ที่สำนักงานบังคับคดี
ลูกหนี้ กยศ. ที่ผิดนัดชำระหนี้ จ่ายไม่ตรงเวลา หรือ เบี้ยวชำระหนี้ ไม่ต้องหนี ไม่ต้องกลัวถูกอายัดทรัพย์ เพราะ กยศ. มีมาตรการช่วยปรับโครงสร้างหนี้ ผ่อนผันการชำระหนีืไม่ต้องเสียประวัติการชำระเงิน ทำให้ไม่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีจนนำไปสู่การยึดทรัพย์ แล้วยังส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนในกองทุนที่จะทำให้ผู้กู้รุ่นหลังมีโอกาสในการกู้ยืมเพื่อการศึกษาได้ต่อไปอีกด้วย