เส้นใยไหมเปรียบเหมือนเส้นใยแห่งชีวิต จาก “ดักแด้ตัวเล็ก” ที่ค่อย ๆ กินใบหม่อนจนเติบโต ผ่านกรรมวิธีถักทอร้อยเรียงจนกลายมาเป็น “ผ้าไหม” สินค้าทางวัฒนธรรมที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรชาวไทย การผลิตผ้าไหมนั้นมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การเลือกพันธ์ุหนอนไหม จนถึงพันธุ์ใบหม่อนที่ใช้เลี้ยงหนอนเหล่านั้น และในยุคของการแข่งขันที่สูง การมีมาตรฐาน GAP มาช่วยรับรองแหล่งปลูกใบหม่อนเลี้ยงหนอนไหม ว่าเป็นไปตามมาตรฐานการผลิตที่ดีและเป็นที่ยอมรับระดับโลก จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อสินค้าและเพิ่มโอกาสในการขายในระดับสากลยิ่งขึ้น มาตรฐานที่ว่ามีรายละเอียดอย่างไร มีข้อดีอย่างไร และขอได้อย่างไร
Link ที่เกี่ยวข้อง
GAP หม่อนไหม คืออะไร?
อาชีพปลูกหม่อนเลี้ยงไหมเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สืบทอดกันมา จนทำให้เกิดธุรกิจเกี่ยวกับหม่อนไหมที่สร้างรายได้มหาศาล เช่น ชาใบหม่อน น้ำลูกหม่อน หรือเส้นไหมที่ได้จากการนำใบหม่อนไปเลี้ยงหนอนไหม เพื่อให้การผลิตมีมาตรฐานผู้ประกอบการจึงต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพของสินค้า นับตั้งแต่ต้นน้ำอย่างการปลูกต้นหม่อน ไปจนถึงการเก็บเกี่ยวและการขนย้ายผลิตผลให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ด้วยการขอการรับรองมาตรฐานการผลิตทางการเกษตรที่ดีและเหมาะสม (GAP: Good Agricultural Practice) ซึ่งเป็นการยืนยันว่า
- กระบวนการผลิตที่ได้ผลิตผลปลอดภัย
- กระบวนการที่ได้ผลิตผลปลอดภัยและปลอดภัยจากศัตรูพืช
- กระบวนการผลิตที่ได้ผลิตผลปลอดภัยปลอดจากศัตรูพืช และคุณภาพเป็นที่พึงพอใจของผู้บริโภค
สำหรับการประเมินเพื่อให้ได้มาตรฐาน GAP ของผลิตภันฑ์หม่อนไหม ซึ่งในที่นี้จะเน้นในประเด็นการผลิตใบหม่อนเพื่อไปเลี้ยงหนอนไหม จะมีประเด็นพิจารณาตามตารางด้านล่างนี้ โดยเน้นการตรวจพินิจ เช่น ตรวจสถานที่ปลูก กระบวนการปลูกและเก็บเกี่ยว ต้นพันธ์ุ และการตรวจบันทึกข้อมูลแหล่งที่มา หรืออาจมีการสัมภาษณ์ และอื่น ๆ ดังรายละเอียดในตารางด้านล่าง
1. แหล่งน้ำ | ไม่มีสภาพแวดล้อมที่ก่อให้เกิดการปนเปื้อนวัตถุหรือสิ่งอันตราย | ตรวจพินิจสภาพแวดล้อม หากเสี่ยงให้วิเคราะห์คุณภาพน้ำ |
2. พื้นที่ปลูก | ไม่มีวัตถุหรือสิ่งอันตรายที่ทําให้เกิดการตกค้างหรือปนเปื้อน | ตรวจพินิจสภาพแวดล้อม หากเสี่ยงให้วิเคราะห์คุณภาพดินหรือใบหม่อน |
3. การใช้วัตถุอันตรายทางการเกษตร |
|
|
4. กระบวนการผลิตก่อนการเก็บเกี่ยว |
|
|
5. การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว |
|
|
6. การเก็บรวบรวมและการขนย้ายผลิตผล |
| ตรวจพินิจสถานที่เก็บรวมรวบพาหนะ และวิธีปฏิบัติในการขนย้าย |
7. สุขภาพและการให้ความรู้แก่ผู้ปฏิบัติงาน |
|
|
8. การบันทึกข้อมูล |
| ตรวจบันทึกข้อมูล |
หากการผลิตภัณฑ์ผ้าไหม มีกระบวนการผลิตที่ได้รับมาตรฐาน GAP ตั้งแต่กระบวนการปลูกใบหม่อนเพื่อเลี้ยงหนอนไหม ก็จะเป็นส่วนช่วยยืนยันว่า ผู้ผลิตมีการใส่ใจตั้งแต่ต้นห่วงโซ่การผลิต ที่ให้ความสำคัญกับประเด็นต่างๆ ดังตารางด้านบน ผ้าไหมจากแหล่งนั้นก็จะมีความพิเศษ แตกต่าง และมีกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยและยั่งยืนแน่นอน
นอกจากนี้ยังมีมาตรฐาน GAP ที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หม่อนไหม ชนิดอื่นๆ เช่น การผลิตรังไหม การผลิตชาใบหม่อน การผลิตเส้นไหมดิบ และอื่นๆ ที่น่าสนใจ โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ทำไมต้องมีการรับรองแหล่งผลิตหม่อนไหม
ใบรับรองแหล่งผลิตมาตรฐานสินค้าเกษตร GAP เปรียบเสมือนเครื่องการันตีว่าสินค้าเกษตรชนิดนั้นมีคุณภาพและตรงตามมาตรฐานการรับรองสากล สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจหม่อนไหมที่ต้องการขายหรือส่งออกหม่อนไหม การมีมาตรฐาน GAP ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์และส่งเสริมการขายไปยังทั่วโลกได้มากขึ้น การขอใบรับรองมาตรฐาน GAP เพื่อผลิตใบหรือผลจึงเป็นสิ่งจำเป็นโดยปริยาย
สำหรับใบรับรองนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ใบรับรองแหล่งผลิตสำหรับรายเดียว (ในกรณีที่ยื่นขอรับรองในนามบุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคล โดยมีรายชื่อผู้ผลิตเพียงคนเดียว)
- ใบรับรองแหล่งผลิตสำหรับกลุ่ม (ในกรณีที่ยื่นขอรับรองในนามของกลุ่มเกษตรหรือองค์กร โดยมีรายชื่อผู้ผลิตหลายคนในกลุ่ม)
ใครขอใบรับรองได้บ้าง
ผู้ที่ประกอบกิจการนี้สามารถยื่นขอใบรับรองได้ทั้งในลักษณะรายเดียวหรือลักษณะของกลุ่มก็ได้ ทั้งนี้ ต้องศึกษาข้อมูลให้แน่ชัดเสียก่อนว่าตนเองมีคุณสมบัติครบถ้วนในการยื่นขอใบรับรองหรือไม่ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของกรมหม่อนไหมระบุไว้ว่า ผู้ยื่นคำขอต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้
- เป็นบุคคลหรือนิติบุคคล หรือกลุ่มเกษตรกร องค์กรที่รับผิดชอบในทางกฎหมายในการผลิตตามมาตรฐานสินค้าเกษตร GAP หม่อนเพื่อผลิตใบหรือหม่อนเพื่อผลิตผล
- เป็นผู้สมัครใจขอรับการรับรอง ยินดีที่จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ที่กรมหม่อนไหมกำหนด
- ไม่เป็นผู้ถูกเพิกถอนการรับรองจากกรมหม่อนไหม หรือหน่วยรับรองฯ อื่นๆ ที่มีมาตรฐานเทียบเท่าของกรมหม่อนไหม เว้นแต่พ้นระยะเวลา 1 ปี นับจากวันที่ถูกเพิกถอนการรับรองมาแล้ว
สามารถดาวน์โหลดเอกสารประกอบการยื่นขอใบรับรอง พร้อมตรวจสอบรายชื่อเอกสารและหลักฐานอื่นได้จากลิงก์ด้านล่างนี้
การขอรับรองแหล่งผลิตให้ได้มาตรฐาน (GAP) ทำได้อย่างไร
เมื่อศึกษารายละเอียดต่าง ๆ อย่างครบถ้วนแล้วก็สามารถนำเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ ไปยื่นคำขอด้วยตนเองตามรายละเอียดด้านล่าง หรือจะยื่นคำขอออนไลน์ผ่าน Biz Portal ช่องทางให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัลที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการยื่นเอกสาร และหลักฐานต่าง ๆ ได้ทุกที่ ทุกเวลา
ติดต่อที่จุดบริการ |
|
ติดต่อออนไลน์ |
|
Tips: หากขอผ่าน Biz Portal ก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่เข้าสู่ระบบ เลือกขอใบอนุญาต การขอรับรองแหล่งผลิต GAP หม่อนเพื่อผลิตใบ/ผล กรอกรายละเอียด อัปโหลดเอกสาร เช่น บัตรประชาชน หรือเอกสารสิทธิ์ที่ดินในการปลูกหม่อน และอื่น ๆ จากนั้นกดส่งคำขอและชำระค่าธรรมเนียมก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
การขอต่ออายุใบอนุญาต
หลังจากได้รับใบรับรองมาตรฐานสินค้า GAP เรียบร้อยแล้ว ผู้ประกอบการยังคงต้องรักษาระบบการผลิตให้อยู่ในมาตรฐานตามที่กำหนดไว้ตลอดระยะเวลาที่ได้รับการรับรอง ยิ่งไปกว่านั้น จะต้องมีการตรวจประเมินเพื่อต่ออายุการรับรองทุก 3 ปี โดยจะตรวจประเมินตามเกณฑ์และเงื่อนไขเดิม เช่น ตั้งแต่แหล่งปลูก กระบวนการปลูก ไปจนถึงการเก็บใบหม่อน โดยสามารศึกษารายละเอียดและเกณฑ์การประเมินเพิ่มเติม คลิกที่นี่