ผู้ประกันตนที่ต้องจ่ายเงินสมทบประกันสังคมทุกเดือน ซึ่งเป็นผู้ประกันตนใน ม.33 และ ม.39 รู้กันหรือยังว่าอายุเท่าไหร่ถึงจะได้เงินชราภาพจากประกันสังคม แล้วจะได้รับในรูปแบบไหน รับเป็นเงินก้อน หรือ เงินรายเดือน แล้วขั้นตอนการรับเงินมีอะไรบ้าง ต้องทำอย่างไร มาหาคำตอบกันได้เลยในบทความนี้
Link ที่เกี่ยวข้อง
เงินชราภาพ ประกันสังคม คืออะไร ใครบ้างมีสิทธิรับเงิน?
กลุ่มที่ 1 ผู้ประกันตนทั้ง 3 มาตรา (33, 39, 40)
- ผู้ประกันตน ม.33 และ ม.39 – มีอายุ 55 ปีบริบูรณ์ และแจ้งสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน
- ผู้ประกันตน ม.40 – มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ และแจ้งสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน
- ลูก หรือ ลูกบุญธรรมที่ชอบด้วยกฏหมาย
- สามี-ภรรยา ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
- บิดา-มารดา ที่มีชีวิตอยู่
เงินคนชรา ประกันสังคม จะได้รับเมื่อไหร่
รับเงินก้อนเดียว หรือ บำเหน็จ
- จ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 12 เดือน รับบำเหน็จเท่ากับเงินส่วนของเงินสงเคราะห์บุตรและชราภาพคิดเป็นร้อยละ 3 ของค่าจ้างแต่ละปี
- จ่ายสมทบมากกว่า 12 เดือน แต่ไม่ถึง 180 เดือน ได้บำเหน็จเท่ากับเงินส่วนของเงินสงเคราะห์บุตรและชราภาพบวกกับเงินที่นายจ้างสมทบ หรือคิดเป็นร้อยละ 6 ของค่าจ้างแต่ละปี
รับเงินรายเดือน หรือ บำนาญ
ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบครบ 180 เดือน แม้ว่าจะหยุดส่งไปช่วงหนึ่งแล้วกลับมาเข้าระบบประกันสังคมใหม่ หรือ ส่งติดต่อกัน 15 ปี จะมีสิทธิ์รับบำนาญเท่ากับ 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย
เช็คเงินชราภาพประกันสังคม ใครได้เท่าไหร่? เทียบสูตรคำนวณบำนาญแบบง่าย ๆ
ผู้ประกันตนที่รับเงินบำนาญรายเดือน
ตัวอย่างเช่น รายได้ตั้งแต่ 15,000 บาท/เดือนขึ้นไป คำนวณเงินบำนาญได้เป็น 15,000 x 20% เท่ากับได้รับเงินบำนาญเดือนละ 3,000 บาท
20 x 15,000 | = | 3,000 |
100 |
ทั้งนี้ กรณีที่มีการจ่ายเงินสมทบเกิน 180 เดือน ให้ปรับเพิ่มอัตราบำนาญตามข้อ 1 ขึ้นอีกร้อยละ 1.5 ต่อระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบทุก 12 เดือน สำหรับระยะเวลาที่จ่ายเงินสมทบเกินกว่า 180 เดือน
[20+ (1.5 x จำนวนปี)] x 15,000 |
100 |
คำนวณรับเงินก้อน หรือ บำเหน็จ
ตัวอย่าง ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบได้ 10 เดือน จะได้รับ เท่ากับ 300 x 10 = 3,000 บาท
แบบที่ 2 ผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบ ตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป จะได้รับเงินบำเหน็จ เท่ากับจำนวนเงินสมทบ ที่ผู้ประกันตนและนายจ้างนำส่ง รวมทั้งผลประโยชน์ตอบแทน ตามที่สำนักงานประกันสังคมประกาศกำหนด
ตัวอย่างเช่น ผู้ประกันตนอายุ 55 ปี สิ้นสุดสภาพการเป็นลูกจ้างวันที่ 28 พฤศจิกายน 2547 ยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน ในวันที่ 10 ธันวาคม 2547 เจ้าหน้าที่วินิจฉัยในวันเดียวกัน โดยมีรายการนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตน ดังนี้
ปี | จำนวนเงินสมทบ | นายจ้าง | ผู้ประกันตน |
---|---|---|---|
2542 | 850 | 850 | 1,700 |
2543 | 1,550 | 1,550 | 3,100 |
2544 | 2,300 | 2,300 | 4,600 |
2545 | 3,200 | 3,200 | 6,400 |
2546 | 4,100 | 4,100 | 8,200 |
2547 | 2,800 | 2,800 | 5,600 |
รวม | 14,800 | 14,800 | 29,600 |
วิธีคำนวณผลประโยชน์ตอบแทน
ปี | เงินสมทบ | เงินสมทบสะสม x อัตรา | ผลประโยชน์ตอบแทน |
---|---|---|---|
2542 | 1,700 | 1,700 x 2.4% | 40.80 |
2543 | 3,100 | (1,700 + 3,100 = 4,800 ) x 3.7% | 177.60 |
2544 | 4,600 | (4,800 + 4,600 = 9,400) x 4.2% | 394.80 |
2545 | 6,400 | (9,400 + 6,400 = 15,800) x 4.3% | 679.40 |
2546 | 8,200 | (15,800 + 8,200 = 24,000) x 6.5% | 1,560 |
2547 | 5,600 | (24,000 + 5,600 = 29,600) x 2.00% x 11/12 | 542.67 |
ตรวจสอบเงินคนชรา ประกันสังคม ผ่านแอปฯ SSO Connect หรือ แอปฯ ทางรัฐ
ขอคืนเงินสูงอายุก่อนอายุ 55 ปีได้หรือไม่
คำตอบ คือ ไม่ได้ แม้ว่าจะส่งเงินมาครบ 15 ปี แต่ถ้าอายุยังไม่ถึง 55 ปีบริบูรณ์ ก็ต้องรอจนกว่าอายุจะครบเท่านั้น
ยกเว้น 2 กรณีที่สามารถรับเงินประกันสังคมคืน ก่อนอายุ 55 ปีได้ คือ
- ผู้ประกันตนกลายเป็นผู้ทุพพลภาพ ก่อนอายุ 55 ปี จะคืนเป็นเงินบำเหน็จ
- ผู้ประกันตนเสียชีวิตก่อนอายุ 55 ปี ทายาทจะได้รับเป็นเงินบำเหน็จเท่านั้น ไม่มีสิทธิรับเป็นเงินบำนาญ แม้จะส่งเงินสมทบครบ 15 ปีแล้วก็ตาม
ขอรับเงินบางส่วน ก่อนอายุ 55 ปีได้หรือไม่
แม้มีข้อดีคือ สามารถบรรเทาความเดือดร้อนทางการเงินได้ แต่ก็มีข้อเสียคือ หากใช้สิทธิรับเงินล่วงหน้าไปแล้ว จะเหลือเงินบำเหน็จหรือบำนาญลดลง นอกจากนี้ยังส่งผลต่อความมั่นคงของกองทุนประกันสังคมในระยะยาว
แล้วแบบไหนคุ้มกว่ากัน ระหว่าง บำเหน็จกับบำนาญ
หากส่งเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือนขึ้นไปหรือทำงานเกิน 15 ปี จะได้รับเงินบำนาญ เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเลือกรับบำเหน็จได้
เปรียบเทียบ ข้อดี-ข้อเสีย
การรับเงินบำเหน็จ
ข้อดี ได้เงินก้อนใหญ่มาเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่ต้องการใช้เงินก้อน
ข้อเสีย จะได้บำเหน็จน้อยกว่าบำนาญ และมีโอกาสที่จะใช้เงินหมดก่อน หากอายุยืนอาจไม่มีเงินเพียงพอใช้ในบั้นปลายชีวิต
การรับเงินบำนาญ
ข้อเสีย ไม่มีเงินก้อนสำหรับการลงทุนหากมีความต้องการ
ยื่นขอคืนเงินที่ไหน อย่างไร
- ผู้ประกันตนสามารถยื่นขอรับเงินบำนาญผู้สูงอายุ โดยกรอกแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ (สปส. 2-01)
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หน้าแรก ที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอฯ (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร) ของ 11 ธนาคาร ดังนี้ ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย, ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย, ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
- ยื่นขอสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร พื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา
จะได้รับเงิน เมื่อไหร่
- เงินบำเหน็จ ได้รับภายใน 7-10 วันทำการ (ไม่นับวันหยุดราชการ) หลังจากได้รับการอนุมัติ
- เงินบำนาญ หลังจากได้รับการอนุมัติ จะมีเงินโอนเข้าบัญชีภายในวันที่ 25 ของเดือนถัดไป
สำหรับผู้ประกันตนที่วางแผนเกษียณอายุการทำงาน จะเห็นได้ว่าการจ่ายเงินสมทบรายเดือนกับกองทุนประกันสังคมนั้น มิได้สูญเปล่า เพราะนอกจากจะได้รับสิทธิประโยชน์ระหว่า การทำงานจำนวนมากแล้ว เมื่อถึงวัยเกษียณก็ยังคง มั่นใจได้ว่ามีเงินชราภาพไว้เป็นหลักประกัน เป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้