รู้หรือไม่ว่า ก่อนการขับรถมอเตอร์ไซค์หรือรถจักรยานยนต์ จำเป็นต้องทำใบขับขี่เสียก่อน เนื่องจากใบขับขี่นี้จะเป็นใบอนุญาตให้ผู้ใช้ สามารถขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าผู้ขับขี่มีความเข้าใจกฎจราจร และรู้มารยาทในการขับขี่บนท้องถนนเป็นอย่างดี สำหรับคนที่อยากทําใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรก สงสัยว่าต้องเตรียมตัว และมีเอกสาร ขั้นตอนใดบ้าง บทความนี้จะช่วยให้คุณเตรียมตัวได้ดียิ่งขึ้น
Link ที่เกี่ยวข้อง
ทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล คืออะไร?
ใบขับขี่ชนิดนี้ คือ ใบอนุญาตสำหรับขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานทั่วไป ไม่ได้นำมาใช้รับจ้างเป็นอาชีพ การมีใบขับขี่ไว้จะช่วยให้การใช้รถนั้นถูกต้องตามที่กฏหมายกำหนด ในครั้งแรกที่ทําใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ จะได้ใบขับขี่แบบชั่วคราวก่อน ซึ่งจะมีอายุการใช้งาน 2 ปี และในครั้งต่อไปจะเป็นการต่ออายุใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ซึ่งจะเป็นใบขับขี่แบบใช้งานกันได้ยาว ๆ 5 ปี
“บิ๊กไบค์” มอเตอร์ไซค์เหมือนกัน แต่ใช้ใบขับขี่ไม่เหมือนกัน
ตัวอย่างการแบ่ง ประเภทของรถ และใบขับขี่
ประเภทรถ | กำลังของเครื่องยนต์ (C.C.) | ใบขับขี่จักรยานยนต์ทั่วไป | ใบขับขี่รถบิ๊กไบค์ |
---|---|---|---|
รถครอบครัว | 110 - 125 | ||
รถเอ.ที. (AT) | 110 - 300 | ||
รถสปอร์ต | 150 - 300 | ||
รถออน-ออฟ (On-Off) | 250 | ||
รถบิ๊กไบค์ (Big Bike) | 400 ขึ้นไป |
เยาวรุ่นก็ขับได้ถูกกฏหมายด้วย
จะทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ครั้งแรกได้ ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วน ดังนี้
- สำหรับผู้ทำใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี แต่ถ้าเป็นผู้ขอใบขับขี่รถจักรยานยนต์ชั่วคราว สำหรับรถที่กระบอกสูบรวมกันไม่เกิน 110 ลูกบาศก์เซนติเมตร ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี
- มีทักษะความสามารถในการขับรถ
- มีความรู้ความเข้าใจเรื่องกฏจราจร
- ไม่เป็นผู้พิการ และไม่มีโรคประจำตัวที่เห็นว่าเป็นอันตรายในการขับขี่ เช่น โรคลมชัก กล้ามเนื้ออ่อนแรง
- ไม่เป็นคนวิกลจริต
ตัวอย่างการแบ่ง ประเภทของรถ และใบขับขี่
ขั้นตอนง่าย ๆ อยู่ที่ไหนก็ทําใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ได้
คนที่ต้องการทำใบขับขี่ประเภทนี้ สามารถทำได้ที่กรมการขนส่งทางบกทั่วประเทศ จะใช้เวลาในการสอบ 2 วัน แบ่งเป็นสอบภาคทฤษฏี และสอบภาคปฏิบัติ ใช้เอกสาร ดังนี้
- บัตรประชาชนฉบับจริง
- ใบรับรองแพทย์ ขอไว้ไม่เกิน 1 เดือน
ขั้นตอนการทำใบขับขี่ครั้งแรก มีดังนี้
- การจองคิวเข้าอบรมการขับขี่ ซึ่งเราสามารถจองคิวอบรมได้ 2 ช่องทาง คือ
- จองคิวอบรมด้วยตนเอง ได้ที่จุดบริการของสำนักงานขนส่งที่ใกล้บ้าน สำพร้อมนำหลักฐานประกอบคำขอต่าง ๆ มาด้วย
- จองคิวผ่านแอปฯ DLT Smart Queue Google play, iOSเป็นการจองคิวผ่านระบบออนไลน์ ก่อนใช้บริการที่สำนักงานขนส่ง เพื่อเพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว
- จองคิวอบรมผ่านทางโทรศัพท์ โดยสามารถจองผ่านหมายเลข 02-271-8888 ต่อ 4201-4 หรือโทร 1584 และต้องมาลงทะเบียนในวันที่นัดอบรมก่อนเวลา 08.00 น.
- ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ประกอบไปด้วย การทดสอบการมองเห็นสี การทดสอบสายตาทางลึก การทดสอบสายตาทางกว้าง และการทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรก)
- เข้ารับการอบรม ไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง
- สอบข้อเขียน ผ่านระบบ E-exam (Electronic examination)
- ทดสอบขับรถ โดยใช้ท่าทดสอบ ดังนี้
- ท่าที่ 1 การขับรถโดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
- ท่าที่ 2 การขับรถทางตัวบนทางแคบ
- ท่าที่ 3 การขับรถผ่านทางโค้งรัศมีแคบรูปตัว Z
- ท่าที่ 4 การขับรถผ่านทางโค้งซ้าย และโค้งขวารูปตัว S
- ท่าที่ 5 การขับรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
- ชำระค่าธรรมเนียม รับใบขับขี่ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการถ่ายรูปเพื่อพิมพ์ใบอนุญาตขับขี่ และจ่ายใบขับขี่ที่สามารถนำมาใช้ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ต่ออายุใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ เตรียมตัวอย่างไร
การต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล สามารถทำได้ก่อนหมดอายุ 3 เดือน ที่สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- มีใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลอยู่แล้ว
- ผู้ขอมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดเหมือนกับการขอครั้งแรก
- กรณีใบหมดอายุเกิน 3 ปี ติดต่อที่สำนักงานฯ ทั่วประเทศ หรือ สอบถาม โทร 1584
เอกสารที่ใช้ในการทำใบขับขี่
ทำใบขับขี่ (ขอใหม่) | ต่อใบขับขี่ |
---|---|
|
|
ผู้ขอสามารถลงทะเบียนจองคิวทำใบขับขี่ผ่านแอปพลิเคชัน DLT Smart Queue หรือแอปฯ ทางรัฐโดยเลือกวัน-เวลาที่สะดวกได้ (ไม่มีปิดเสาร์-อาทิตย์) หรือจะเลือกฟังอบรมออนไลน์ที่บ้าน แต่การอบรมที่บ้านสามารถทำได้เฉพาะกับการต่อใบขับขี่เท่านั้น การทำใบขับขี่ครั้งแรกต้องมาอบรมที่สำนักงานขนส่งเหมือนเดิม
เมื่อได้รู้ถึงขั้นตอนของการทําใบขับขี่มอเตอร์ไซค์แล้ว หากใครที่ขับขี่อยู่แต่ยังไม่มีบัตร จะช้าไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้การต่อใบขับขี่ไม่ได้ยุ่งยากและใช้ระยะเวลานานอีกต่อไป ทางสำนักงานขนส่งมีการบริการใหม่ ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับไลฟ์สไตล์ยุคใหม่อีกด้วย